เราคอยพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับแก้วมังกรใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ โดยได้ความร่วมมือจากทางทีมวิจัยจากมหาวิทยลัยเกษตรศาสตร์ จนเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาแก้วมังกรเอง การปลูกนอกฤดู หรือ แม้แต่การแปรรูปแก้วมังกร ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ หรือ นิตยาสาร เพื่อนำความรู้ความเชี่ยวชาญมาแบ่งปันให้กับพี่น้องชาวเกษตรและบุคคลที่สนใจ
สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ YOUTUBE CHANNEL
สวนเกษตรแก้วมังกรเก่งกับเฮง ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในนามสวนเกษตรแก้วมังกร เมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยคุณพ่อของ คุณสุทธิศักดิ์ บุณยาคุมานนท์ นั่นคือ คุณไสล บุณยาคุมานนท์
คุณไสลได้ทราบข่าวว่า ที่วัดอ่างทอง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีต้นแก้วมังกรให้ผลดีอยู่ต้นหนึ่ง จึงได้ไปติดต่อขอพันธุ์จากมรรคทายกวัดอ่างทอง ซึ่งต้นแก้วมังกรดังกล่าวขึ้นอยู่ที่โคนต้นก้ามปูขนาดใหญ่เลื้อยไปตามกิ่งก้านของต้นก้ามปูจนเต็มต้น ทุกปีแก้วมังกรต้นนี้จะให้ผลผลิตค่อนข้างดก แต่ไม่มีผู้ใดนิยมรับประทาน คุณไสลเคยได้รับประทานผลมาก่อนเมื่อสมัยไปรับซื้อดอกกล้วยไม้ที่นำมาส่งที่ท่าน้ำหน้าวัดอ่างทอง ซึ่งมีรสชาติไม่ค่อยอร่อยนัก แต่คุณไสลคิดว่าเกิดจากไม่มีใครดูแลใส่ปุ๋ยรดน้ำ หากดูแลใส่ปุ๋ย รดน้ำอย่างดีก็น่าจะได้ผลแก้วมังกรที่มีรสชาติดี จึงขอเจ้าอาวาสวัดนำแก้วมังกรพันธุ์ใหม่มาปลูกได้ 4,000 ต้นในพื้นที่ 18ไร่เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ปี 2540
นายสุทธิศักดิ์ บุณยาคุมานนท์ (เก่ง) ผู้บริหารสวนเกษตรแก้วมังกร
เมื่อปลูกไปได้ 8 เดือน ต้นแก้วมังกรก็ให้ผลผลิตที่มีรสชาติดีกว่าพันธุ์เวียดนาม จึงได้นำต้นแก้วมังกรไปขอจดทะเบียนสายพันธุ์กับกรมวิชาการเกษตรแล้วได้ขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ว่า พันธุ์วัดอ่างทองซึ่งถือได้ว่าเป็นแก้วมังกรพันธุ์แรกของประเทศไทย และเริ่มขยายสวนเป็น 130 ไร่หมือนปัจจุบัน
หนังสือรับรองทะเบียนพันธุ์แก้วมังกรพันธุ์วัดอ่างทอง หรือ พันธุ์ไทยมังกรทอง
certification of new Thai dragon fruit species
แก้วมังกรพันธุ์วัดอ่างทองหรือเป้นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่าแก้วมังกรพันธุ์ไทยมังกรทอง ทำให้ชีวิตของคุณไสลดีขึ้นและได้รับความนิยมจากทั่วสารทิศ ทั้งรายการโทรทัศน์และนิตยสารต่างๆและเกษตรกรที่เข้ามาเยี่ยมชมสวน จนกระทั่งปี 2546 คุณไสลจึงมอบสวนเกษตรแก้งมังกรให้แก่ คุณสุทธิศักดิ์ลูกชายที่ร่วมทำมาด้วยกัน สืบทอดและพัฒนาสวนเกษตรแก้วมังกรนี้ต่อมาจนปัจจุบันเป็นสวนเกษตรแก้วมังกรเก่งกับเฮง ซึ่งปลูกแก้วมังกรทั้งสิ้น 130 ไร่ มี 3 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ แก้วมังกรพันธุ์เวียดนาม (เนื้อสีขาว เปลือกสีแดง) แก้วมังกรพันธุ์ไต้หวัน(เนื้อสีแดงเปลือกสีแดง) แก้วมังกรพันธ์ุเหลืองทองอิสราเอล(เนื้อสีขาวเปลือกสีเหลือง) จำหน่ายกิ่งพันธุ์และผลผลิตแก่ผู้ที่สนใจ ตลาดภายในประเทศและผู้ประกอบการเพื่อการส่งออก
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส การทำสวนแก้วมังกร
ปีที่เราปลูกเป็นสวนที่สาม คุณสุทธิศักดิ์ บุณยาคุมานนท์ มาทำกับคุณพ่อตั้งแต่ปี 2540 เป็นช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ที่บ้านขาดทุนจากการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เลยกลับมาทำการเกษตรอีกครั้งนึง ทำไมต้องเป็นแก้วมังกร ณ วันนั้นเราปลูกส้มเขียวหวาน แล้วส้มก็ตาย ญาติกันปลูกแก้วมังกรอยู่พอดี เราเลยนำมาลองปลูกในพื้นที่ 18 ไร่ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าปลูกแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ก็เริ่มสามารถขายได้ จึงทำการขยายสวนเกษตรแก้วมังกรมาเป็น 130 ไร่ถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันปลูกทั้งหมด 3 สายพันธ์ุนะครับ คือ พันธ์ุเนื้อขาวผิวทองอิสราเอล พันธ์ุเนื้อขาวผิวสีแดงเวียดนาม พันธ์ุเนื้อแดงผิวแดงไต้หวัน ตอนเริ่มทำตลาดครั้งแรกๆ ก็ไปลองให้แม่ค้าลองขายดูก่อน ยังไม่ตีราคา ขายได้อยู่กิโลกรัมละ 70 -80 บาท พอเริ่มมีการปลูกกันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ราคาก็ลดลง ผมเองก็ทำการตลาดเองด้วย โดยไปติดต่อ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง เพื่อรองรับปริมาณที่เราผลิตเพิ่มเติม วันนึงก็มีผู้ส่งออกเข้ามาหา มันก็ดถึงโอกาสที่เราจะต้องปรับ และปรับปรุงคุณภาพการผลิด จนพัฒนามาเรื่อยๆ จน 60% ผมผลิตให้กับผู้ส่งออก สำหรับคนที่จะปลูกแก้วมังกร หัวใจสำคัญสามเรื่อง คือ 1 ต้องปลูกในที่โล่งแจ้งโดนแดดทั้งวัน 2. ต้องมีน้ำในการช่วยตอนทำนอกฤดู 3 ดิน ดินเหนียวปลูกขนาดลูกไม่ใหญ่สี สวย ดินทรายผลโตกว่า แต่สีอาจจะจางกว่า ถ้าเราเลือกได้ถูกต้อง โอกาสจะปลูกสำเร็จก็มีสูงแล้วครับ ผมไม่เคยย่อท้อกับสิ่งทีทำมากว่า 20 ปี ทดลอง ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ รวมทั้งทำร่วมนักวิจัยมา มีงานวิจัยใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ จากการทดลองที่สวนเรา
With more than 20 years experience growing dragon fruit in Thailand on 52 acres farm in Pratumthani, Thailand. With Certified E.U. GAP and Global GAP Quality, Kenny provide the best quality Dragon Fruit for both domestically and Internationally.
Our KennyDragon Fruit farm is established in 1997 by Mr. Salai Boonyakumanon (Kenny’s father). Mr. Salai have succeeded from growing and exporting orchid to European countries before, After that he gave his business to his brother and buy the new land that used to be an orange orchard. After He kept on doing orange business for ten years, there was a problem caused by the acid soil so that orange trees gradually die each by each so he decided to grow banana instead for two year later on. At that time there was a huge economic crisis in Thailand in 1997, His friend Mr.BoonChu Pracongkeaw who just started to do dragon fruit business in Thailand suggested him to grow dragon fruit. Mr. Salai was interested and thought that it could help him get through this economic crisis therefore begin to grew 200 white flesh dragon fruit trees in his farm.
Afterwards, Mr.Salia found that there is another species at Wat Ang Thong temple in Samutsakorn. It was ignored and snuggle on the very big tree. Every year this Dragon Fruit produced large amount of fruits but it tastes flat therefore no one care about it. He thought that from his experience, the reason why it tastes flat is that no one put fertilizer and water on it. He ask for permission from abbot to take some of it to grow in his own farm. 4000 Dragon Fruit trees were culivated on the 7.2 acre of his farm on AUG 12, 1997
From that day on, he applied his experience from growing orchid and orange, learn and watch to optimize the product from dragon fruit, trails and error until 8 months passed, new species(we called it Thai species) produces fruit and gives much more products and also have better taste than the old species he get from his friend(we called it Vietnam species).He registered this new species with the ministry of agriculture named Wat ang Thong species which is the first Dragon Fruit species in Thailand and expand growing Dragon Fruit trees on all over 52 acres of his farm.
Ang thong species is known in the name of Thai golden dragon Dragon Fruit. It made his life better and better and become well-known by TV program and magazine. In 2003, Mr.Salai decided to retire himself and gave this business to his son, Kenny, who had been growing dragon fruit with him for six years He has been managing this dragon fruit business until now with new marketing style and more growing technique from research by agricultural major’s student from Kasetsart university. He also applied agricultural technologies such as how to grow Dragon Fruit in its out of season, how to reduce using chemical insecticide and fertilizer by changing to organic way but still productive, more safety and less cost. Now we grows 2 species in our 52 acres farm, which are 1.white flesh, red skin and 2. Red flesh, red skin (new species). Tree and product can be purchased at our farm for both domestic and foreign countries.
26 พ.ค. 2567
พลิกวิกฤติเป็นโอกาสจากแก้วมังกรในตลาดที่คนปลูกจำนวนมาก โดนพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบ จนมาเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตเป็นแก้วมังกรแปรรูป
26 พ.ค. 2567
ช่วงนี้มีลูกค้าหลายท่านสนใจ ซื้อกิ่งแก้วมังกรไปปลูกในกระถางที่บ้าน หรือตามคาเฟ่ เพื่อเป็นไม้ประดับ ทางทีมงานจึงรวบรวมคำถามที่ลูกค้าสงสัยมาแชร์กัน
21 ต.ค. 2566
คณะอาจารย์และนักศึกษา วิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี ร่วมกับธนาคารออมสิน ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรนำร่องอำเภอหนองเสือ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมสวนแก้วมังกรของนายสุทธิศักดิ์ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับแก้วมังกรสามสายพันธ์ และการปลูกแก้วมังกร
10 เม.ย 2566
แก้วมังกร สวนเกษตรแก้วมังกร Kenny Dragonfruit รังสิตคลอง 10 พาไปชมสวนแก้วมังกรกว่า 20 ปี ที่มีหลากหลายสี พิเศษสุดๆ คือแก้วมังกรทอง (สีเหลือง) อร่อยกับจานพิเศษ “กระทงแก้วมังกรทอง” รวมแก้วมังกรทั้ง 4 สี
4 ม.ค. 2566
เคล็ดลับง่ายๆที่จะทำให้ท่านได้ทานแก้วมังกรได้หวานหอมอร่อยที่สุด เพียงวางไว้ด้านนอกตู้เย็นแค่ 3-4 วันเท่านั้น แก้วมังกรจะหวานอร่อยพร้อมทาน
24 ก.ย. 2565
สวนเกษตรแก้วมังกร รังสิต คลอง 10 ออกรายการ ปัญญา ตลาดแตก ช่อง #Workpoint #Workpoint23 #เวิร์คพอยท์ EP.182 | 19 ก.ย. 65
9 ก.ค. 2565
สวนเกษตรแก้วมังกรได้ตอนรับท่านนายกองค์การบริหารจังปทุมธานี พล.ต.ท คํารณวิทย์ ธูปกระจ่างและคณะทีมงาน เพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัด
9 ก.ค. 2565
แก้วมังกรน้ำเงินไพลิน สายพันธ์ุใหม่ที่เป็นขาวเมื่อปลายปี 2021 สร้างความแตกตื่นให้กับวงการผลไม้ และแก้วมังกรเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเป็นแค่ photoshop